Battery Monitoring System (BMS)
ระบบช่วยดูแลแบตเตอรี่อย่างชาญฉลาด
แบตเตอรี่เปรียบเสมือนหัวใจสำคัญของระบบสำรองไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นในเครื่องสำรองไฟ (UPS), ระบบโทรคมนาคม หรือแม้แต่ในโรงงานอุตสาหกรรม แต่บ่อยครั้งที่ปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมสภาพหรือขัดข้องมักเกิดขึ้นโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า ทำให้เกิดความเสียหายตามมาโดยไม่คาดคิด
Battery Monitoring System (BMS) หรือ ระบบตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเฝ้าระวัง วิเคราะห์ และแจ้งเตือนความผิดปกติของแบตเตอรี่แบบเรียลไทม์ วันนี้เราจะพาคุณมารู้จักว่าอุปกรณ์ตรวจวัดแบตเตอรี่คืออะไร ทำงานอย่างไร และทำไม ค่า IR ของแบตเตอรี่จึงสำคัญขนาดนั้น
ค่า IR แบตเตอรี่คืออะไร
ค่า IR (Internal Resistance) คือ “ค่าความต้านทานภายในแบตเตอรี่” ซึ่งเป็นค่าที่บอกถึง สุขภาพของแบตเตอรี่
- แบตเตอรี่ที่มีค่า IR ต่ำ หมายถึง แบตเตอรี่ที่สุขภาพดี สามารถส่งกระแสได้ดี
- แบตเตอรี่ที่มีค่า IR สูงขึ้น หมายถึงการเสื่อมของแบตเตอรี่หรือเกิดปัญหากับแบตเตอรี่ เช่น ขั้วต่อหลวม, ซัลเฟตในแบต, ความร้อนสะสมที่มากเกินไป
การวัดค่า IR แบตเตอรี่จึงเป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้ที่แม่นยำที่สุดในการบอกว่าแบตเตอรี่ยังใช้งานได้ดีอยู่หรือไม่ แม้แรงดัน (Voltage) จะดูปกติก็ตาม
อุปกรณ์วัดค่า IR แบตเตอรี่คืออะไรและทำงานอย่างไร
อุปกรณ์วัดค่าแบตเตอรี่หรือที่เรียกกันว่า Battery Monitoring Unit (BMU) คือเครื่องมือที่ใช้สำหรับ
- ตรวจสอบแรงดันไฟฟ้า (Voltage) ของแบตเตอรี่แต่ละลูก
- ตรวจวัดอุณหภูมิ (Temperature) เพื่อประเมินสภาวะแวดล้อมที่ส่งผลต่อการเสื่อม
- ตรวจวัดกระแสไฟฟ้า (Current) ที่ไหลเข้า-ออก
- และที่สำคัญคือ ตรวจวัด ค่าความต้านทานภายในแบตเตอรี่ (Internal Resistance – IR)
ระบบ BMS จะติดตั้งเซนเซอร์ไว้กับแบตเตอรี่แต่ละลูก แล้วส่งข้อมูลเข้าสู่ซอฟต์แวร์ส่วนกลางเพื่อติดตามผลแบบ Real-time และแจ้งเตือนเมื่อพบค่าผิดปกติ
วิธีการใช้อุปกรณ์วัดค่าแบตเตอรี่เพื่อหาค่า IR แบตเตอรี่
การใช้งาน Battery Monitoring System มีขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้:
- ติดตั้งเซนเซอร์ที่แบตเตอรี่แต่ละลูก
โดยทั่วไปจะติดตั้งบนจุดต่อของ Terminal และตรวจจับค่าที่ต้องการวัด เช่น แรงดัน อุณหภูมิ และ IR - เชื่อมต่อกับระบบควบคุมกลาง (Controller)
อุปกรณ์ BMU แต่ละจุดจะเชื่อมเข้าสู่ Gateway หรือ Control Unit เพื่อรวมค่าข้อมูล - แสดงผลผ่าน Software หรือ Web Interface
ข้อมูลจะถูกส่งเข้าสู่ซอฟต์แวร์ BMS ที่ผู้ใช้งานสามารถดูกราฟ วิเคราะห์เทรนด์ หรือรับ Alert แจ้งเตือนได้แบบเรียลไทม์ - ตั้งค่าการแจ้งเตือน
ผู้ดูแลระบบสามารถตั้ง Threshold สำหรับค่าแรงดัน/IR/อุณหภูมิ เพื่อให้ระบบแจ้งเตือนล่วงหน้าเมื่อค่าเข้าใกล้จุดวิกฤต
วิธีการวัดค่า IR แบตเตอรี่ ต้องทำอย่างไร?
หลักการที่ใช้ในการวัดค่า IR แบตเตอรี่
- การวัดค่า IR แบตเตอรี่ แบบ Online (ระหว่างใช้งาน) ใช้ระบบ BMS ที่สามารถวัดค่า IR แบตเตอรี่ ขณะระบบทำงานอยู่ ไม่ต้องปิดโหลด
- ข้อดี: ตรวจสอบได้ตลอดเวลา ไม่กระทบการทำงาน
- เหมาะกับระบบสำรองไฟ UPS, Telecom, Server room
- การวัดค่า IR แบตเตอรี่ แบบ Offline (ต้องปิดระบบชั่วคราว) ใช้เครื่องมือพกพา เช่น เครื่องวัดค่า IR แบตเตอรี่ แบบพกพา (Battery Resistance Tester)
- เชื่อมสายกับขั้วบวก-ลบของแบตแต่ละลูก
- เครื่องจะปล่อยกระแสไฟฟ้าเล็กน้อยแล้วคำนวณค่าความต้านทานภายใน
ค่า IR ที่ “สูงผิดปกติ” แม้เพียง 1–2 ลูก อาจทำให้ทั้งแบตเตอรี่แบงค์ทำงานผิดปกติได้
การตรวจวัดค่า IR แบตเตอรี่ แบบเรียลไทม์ด้วย Battery Monitoring System มี 5 ประโยชน์ดังนี้
- คาดการณ์ปัญหาแบตล่วงหน้า
- วางแผนบำรุงรักษาได้แม่นยำ
- ลด Downtime และความเสี่ยงจากระบบไฟฟ้าขัดข้อง
- ยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่
- เพิ่มความปลอดภัยโดยรวมของระบบ
Leave a Reply