Data Center Infrastructure Management (DCIM)

Data Center Infrastructure Management (DCIM)

ระบบ DCIM เป็นหัวใจสำคัญในการบริหารจัดการศูนย์ข้อมูลสมัยใหม่ องค์กรที่นำระบบ DCIM มาใช้อย่างถูกต้องจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันได้อย่างยั่งยืน ในอนาคต ระบบ DCIM จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปตามวิวัฒนาการของเทคโนโลยีดิจิทัล

Data Center Infrastructure Management (DCIM) คืออะไร

Data Center Infrastructure Management (DCIM) เป็นโซลูชั่นแบบรวมศูนย์ในการมอนิเตอร์ติดตามการใช้พลังงานระบบการทำความเย็นและตัวแปรด้านสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ในศูนย์คอมพิวเตอร์ และในระบบไอทีรวมทั้งบริหารจัดการการใช้พื้นที่ว่างและอายุการใช้งานของระบบ ไม่ว่าองค์กรใดก็อยากจะมีศูนย์ข้อมูลที่ประหยัดพลังงาน (Green Data Center) ความยั่งยืน (Sustainability) และมีประสิทธิภาพสูงสุด  แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับองค์กรส่วนใหญ่คือ เมื่อดำเนินการบางอย่างเพื่อลดการใช้พลังงานได้แล้วก็พอใจอยู่เพียงเท่านั้น ทั้งๆ ที่ศูนย์ข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ วิธีการประหยัดพลังงานที่ใช้ในปัจจุบันจึงอาจไม่ได้ผลในเดือนต่อๆ ไป และจะต้องมีการติดตามตรวจสอบสภาวะและการใช้งานในทุกด้านอย่างสม่ำเสมอ

วัตถุประสงค์และความสำคัญของระบบ data center infrastructure management (dcim)

data center infrastructure management (dcim) มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และปรับปรุงความสามารถในการวางแผน โดยมีฟังก์ชันหลักดังนี้:
  • การตรวจสอบแบบเรียลไทม์ (Real Time): ตรวจสอบการใช้พลังงาน อุณหภูมิ ความชื้น และสถานะอุปกรณ์ต่าง ๆ
  • การบริหารสินทรัพย์ (Asset Management): ติดตามข้อมูลอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้งานในศูนย์ข้อมูล
  • การวางแผนความจุ (Capacity Planning): คาดการณ์การใช้พื้นที่ พลังงาน และความเย็นในอนาคต
  • การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (Increasing energy efficiency): ลดการใช้พลังงานและลดค่าใช้จ่าย

องค์ประกอบหลักของระบบ data center infrastructure management (dcim)

  • การจัดการพลังงาน ตรวจสอบและวิเคราะห์การใช้พลังงานในแต่ละส่วน เช่น ตู้ Rack PDU และ UPS
  • การตรวจสอบสภาพแวดล้อม ใช้เซ็นเซอร์ตรวจสอบอุณหภูมิ ความชื้น และการไหลของอากาศ เพื่อให้แน่ใจว่าศูนย์ข้อมูลทำงานในสภาพที่เหมาะสม
  • การจัดการสินทรัพย์และคลังข้อมูล ติดตามข้อมูลอุปกรณ์และโครงสร้างระบบสายต่าง ๆ เพื่อความถูกต้องในการดูแลรักษาและอัปเกรด
  • การแสดงผลและรายงานใช้แดชบอร์ดและรายงานวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อช่วยในการตัดสินใจและตรวจสอบประสิทธิภาพ
  • การเชื่อมต่อกับระบบอื่น ระบบDCIM สามารถเชื่อมต่อกับระบบอาคาร (BMS) เพื่อการจัดการแบบครบวงจร
  • การแจ้งเตือนความผิดปกติของอุปกรณ์สนับสนุน สามารถแจ้งเตือนความผิดในการใช้งานศูนย์คอมพิวเตอร์แบบ 24x7

การใช้งานระบบ data center infrastructure management (dcim)

ระบบ data center infrastructure management (dcim) เข้ามามีบทบาทในการช่วยติดตามการใช้พลังงานและทำให้องค์กร “เห็น” สิ่งที่เกิดขึ้นในระบบไฟฟ้าและการทำความเย็นเมื่อมีการเคลื่อนย้าย เพิ่มเติม เปลี่ยนแปลงข้อมูลหรือทรัพยากรในศูนย์ข้อมูล การใช้ระบบ DCIM อย่างมีประสิทธิภาพจะสามารถช่วยองค์กรประหยัดพลังงานได้ด้วยกระบวนการอย่างน้อย 6 อย่าง ได้แก่

  1. ตรวจสอบประสิทธิผลการใช้พลังงาน

ทั้งนี้ ระบบ DCIM จะช่วยให้องค์กรสามารถเชื่อมต่อกับเครื่องวัดการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ติดตั้งไว้ทั่วศูนย์ข้อมูล เพื่อติดตามการใช้ไฟฟ้าได้ถึงระดับตู้ Rack ซึ่งจะทำให้ผู้ดูแลศูนย์ข้อมูลสามารถดูความเปลี่ยนแปลงของผลการใช้พลังงานไฟฟ้า (power usage effectiveness – PUE) ได้แบบเรียลไทม์ หากค่า PUE เริ่มสูงขึ้นโดยที่สภาพอากาศภายนอกไม่ได้ร้อนจัด หมายความว่ามีความผิดปกติที่ต้องตรวจสอบต่อไป ระบบ DCIM จะทำให้องค์กรรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับเครื่องทำความเย็นห้องคอมพิวเตอร์ (CRAC) เครื่องสำรองและปรับแรงดันไฟฟ้าอัตโนมัติ (UPS) ตู้ Rack และอุปกรณ์อื่นๆ เพื่อค้นหาจุดที่เป็นปัญหา

  1. บริหารจัดการระบบทำความเย็น

 ระบบทำความเย็นเป็นส่วนที่กินไฟมากที่สุดในศูนย์ข้อมูล และเป็นโอกาสในการประหยัดพลังงานมากที่สุดเช่นกัน การควบคุมดูแลระบบทำความเย็นให้สอดคล้องกันทั้งระบบมีความสำคัญต่อการรักษาระดับอุณหภูมิที่เหมาะสมไปพร้อมกับการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อเหล่าผู้ดูแลศูนย์ข้อมูลพยายามควบคุมการทำความเย็นด้วยตนเอง พวกเขามักจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่อุปกรณ์ในแต่ละจุดทำงานขัดกันเอง เช่น เมื่อผู้ดูแลคนหนึ่งเห็นว่าตู้ Rack ตัวหนึ่งความร้อนสูงเกินไป เขาจึงปรับอุณหภูมิของ CRAC ที่อยู่ใกล้ที่สุด ซึ่งทำให้ศูนย์ข้อมูลอีกส่วนหนึ่งเย็นเกินไป ผู้ดูแลอีกคนหนึ่งจึงไปปรับอุณหภูมิ CRAC อีกเครื่องหนึ่ง เปรียบได้กับการขับรถโดยเหยียบเบรกและคันเร่งไปพร้อมๆ กันระบบ DCIM จึงเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้องค์กรควบคุมการทำงานของ CRAC ทุกหน่วยให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อประสิทธิผลสูงสุดในการทำงานของศูนย์ข้อมูล

  1. กระจายข้อมูลเพื่อแก้ปัญหาบริเวณที่มีความร้อนสูง

 วิธีที่ดีกว่าในการจัดการตู้ Rack ที่มีความร้อนสูงเกินไป คือ เข้าใจสาเหตุและแก้ไขอย่างถูกต้อง โดยทั่วไปปัญหาดังกล่าวเกิดจากมีข้อมูลมากเกินไปในเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ในตู้ Rack เดียวกันจนเกินความสามารถในการระบายความร้อน ในกรณีนี้ Virtualization Software จะช่วยอำนวยความสะดวกในการย้ายข้อมูลไปยังตู้ Rack อื่น ในขณะที่ระบบ DCIM จะช่วยค้นหาตู้ Rack ที่มีโหลดข้อมูลน้อยกว่าให้เข้ามาช่วยประมวลผล การกระจายข้อมูลไปในศูนย์ข้อมูลจะทำให้ CRAC หน่วยต่างๆ ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นและใช้พลังงานน้อยกว่า

  1. ช่วยในการเคลื่อนย้าย เพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลงข้อมูล

 การบริหารจัดการศูนย์ข้อมูลอย่างรอบด้านจะช่วยให้ผู้ดูแลสามารถรับมือกับการเคลื่อนย้าย เพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลง ซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อองค์กรจัดซื้อ Blade server เข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยทั่วไปอาจบรรจุลงในตู้ Rack ที่มีพื้นที่ว่าง แต่ถ้าตู้ Rack นั้นมีข้อมูลอื่นๆ อยู่ด้วย นี่อาจไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด ระบบ DCIM จะช่วยค้นหาตู้ Rack ที่มีทั้งพื้นที่และพลังงานเพียงพอ ซึ่งจะไม่ก่อให้เกิดความร้อนสูงเกินไปเมื่อมีการเก็บข้อมูลเพิ่มขึ้น การบริหารจัดการศูนย์ข้อมูลแบบองค์รวมเช่นนี้จะช่วยลดการใช้พลังงานโดยรวมได้

  1. ช่วยในบริหารจัดการทรัพย์สินภายในศูนย์คอมพิวเตอร์

สามารถมอนิเตอร์ถึงระดับเซิฟเวอร์สามารถใส่ข้อมูลน้ำหนักและการใช้พลังงานของเซิฟเวอร์ รวมถึงจำนวน U ที่ว่างของแต่ละ Rack และโดยรวมทั้งศูนย์คอมพิวเตอร์ เพื่อนำมาประกอบการบริหารจัดการเซิฟเวอร์ภายในศูนย์คอมพิวเตอร์ได้ ทำให้การวางแผน เพิ่ม เปลี่ยน ย้าย เซิฟเวอร์ทำได้ง่ายขึ้น

  1. ช่วยในการแจ้งเตือนความผิดปกติอัตโนมัติ

เมื่อมีอุปกรณ์ในศูนย์คอมพิวเตอร์ทำงานผิดปกติ ระบบจะแสดง Alarm บนหน้าแสดง Alarm โดยอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ที่มอนิเตอร์สามารถทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ ระบบยังสามารถแจ้งเตือนผ่านช่องทาง Email และ Line ได้เพื่อเป็นการลดความรุนแรงหรือระงับก่อนเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้

ประโยชน์ของระบบ data center infrastructure management (dcim)

  • เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
  • ลดเวลาในการแก้ไขปัญหาและลดความเสี่ยงของระบบล่ม
  • วางแผนการใช้ทรัพยากรได้ดีขึ้น
  • ช่วยตัดสินใจด้วยข้อมูลที่แม่นยำ
  • ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ผู้ผลิต/แบรนด์ชั้นของระบบ data center infrastructure management (dcim)

Brand : STULZ

Brand : SCHNEIDER

Brand : ONION

 

บรรณานุกรม

  • Bailey, D., & Schlichting, R. (2011). Data Center Infrastructure Management (DCIM): How a Comprehensive Approach Can Improve Efficiency and Cut Costs. Gartner Research.
  • Green Grid. (2007). White Paper #6: “PUE: A Comprehensive Examination of the Metric”. The Green Grid Association.
  • Patterson, M. K. (2012). The Effectiveness of Data Center Infrastructure Management (DCIM) in Modern Data Centers. Intel Corporation.
  • Uptime Institute. (2023). Data Center Survey Results: State of DCIM and Edge Computing. Uptime Institute Intelligence.

Leave a Reply

Your email address will not be published.