แอร์ห้อง server

แอร์ห้อง server

ปกป้องอุปกรณ์ IT ภายในห้อง Server

ด้วย Precision Air Conditioning

ข้อแนะนำการเลือกใช้แอร์สำหรับห้อง Server: ทำไมต้องเป็น Precision Air Conditioning

ห้องเซิร์ฟเวอร์ถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบ IT ในทุกองค์กร ด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีมูลค่าสูงและทำงานตลอด 24 ชั่วโมง การควบคุมสภาพแวดล้อมภายในห้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุณหภูมิ และ ความชื้น จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อป้องกันความเสียหายและรับประกันความต่อเนื่องในการทำงาน

 

เกิดอะไรขึ้นเมื่อห้อง Server มีความชื้นสูงเกินไป?

เมื่อห้องเซิร์ฟเวอร์มีความชื้นสูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน จะส่งผลเสียร้ายแรงต่ออุปกรณ์และประสิทธิภาพของระบบโดยรวม ดังนี้

  • การควบแน่นและการกัดกร่อน: อากาศชื้นเมื่อสัมผัสกับพื้นผิวที่เย็นกว่า เช่น แผงวงจรหรือส่วนประกอบโลหะภายในเซิร์ฟเวอร์ จะเกิด การควบแน่นเป็นหยดน้ำเล็กๆ หยดน้ำเหล่านี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะจะนำไปสู่ การกัดกร่อน (Corrosion) ของวงจรไฟฟ้าและจุดเชื่อมต่อ ส่งผลให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือความเสียหายถาวรต่ออุปกรณ์
  • ไฟฟ้าลัดวงจรและความล้มเหลวของอุปกรณ์: น้ำที่ควบแน่นเป็นสื่อนำไฟฟ้าที่ดี ทำให้เกิด ไฟฟ้าลัดวงจร (Short Circuits) ภายในอุปกรณ์ได้ทันที สิ่งนี้อาจทำให้เซิร์ฟเวอร์หยุดทำงานกะทันหัน เกิดความเสียหายต่อฮาร์ดแวร์อย่างถาวร หรือร้ายแรงถึงขั้นเกิดควันและประกายไฟ
  • ประสิทธิภาพการทำงานลดลง: ความชื้นที่สะสมบนพื้นผิวอุปกรณ์จะขัดขวางการระบายความร้อน ทำให้พัดลมทำงานหนักขึ้นและอาจไม่สามารถระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอ ซึ่งจะนำไปสู่ อุณหภูมิที่สูงเกินไป (Overheating) และลดประสิทธิภาพการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ลง
  • การสะสมของฝุ่นและสิ่งสกปรก: ความชื้นในอากาศทำให้ฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกเกาะติดกับอุปกรณ์ได้ง่ายขึ้น เมื่อฝุ่นสะสมจะไปอุดตันทางเดินอากาศและเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดความร้อนสูงเกินไป
  • ปัญหาเกี่ยวกับฉนวน: ความชื้นสามารถลดคุณสมบัติการเป็นฉนวนของวัสดุบางชนิด ทำให้เกิดการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้าและเพิ่มโอกาสที่อุปกรณ์จะเสียหาย
  • การรับประกันเป็นโมฆะ: ผู้ผลิตอุปกรณ์ส่วนใหญ่มักระบุเงื่อนไขไว้อย่างชัดเจนว่า ความเสียหายที่เกิดจากความชื้นจะ ไม่อยู่ภายใต้การรับประกัน นั่นหมายความว่าคุณอาจต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ทั้งหมดด้วยตนเอง

 

วิธีการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นในห้อง Server

เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว ห้องเซิร์ฟเวอร์ควรได้รับการควบคุมสภาพแวดล้อมอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะ อุณหภูมิ (Temperature) และ ความชื้นสัมพัทธ์ (Relative Humidity)

  • ระบบปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง: ติดตั้งระบบปรับอากาศที่สามารถควบคุมอุณหภูมิและความชื้นได้อย่างแม่นยำ (ดังที่จะกล่าวถึงในหัวข้อถัดไป)
  • เครื่องลดความชื้น (Dehumidifiers): พิจารณาติดตั้งเครื่องลดความชื้นเพิ่มเติม หากห้องเซิร์ฟเวอร์มีแนวโน้มที่จะมีความชื้นสูงมากเป็นพิเศษ
  • การตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ: ใช้เครื่องวัดอุณหภูมิและความชื้นเพื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อมภายในห้องเซิร์ฟเวอร์เป็นประจำและต่อเนื่อง
  • การออกแบบห้องที่เหมาะสม: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าห้องเซิร์ฟเวอร์มีการระบายอากาศที่ดีและไม่มีแหล่งที่มาของความชื้น เช่น ท่อน้ำรั่วซึม
  • การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน: ทำความสะอาดอุปกรณ์และตรวจสอบระบบระบายความร้อนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ระบบทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

การรักษาระดับความชื้นและอุณหภูมิที่เหมาะสมในห้องเซิร์ฟเวอร์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการรับประกันความเสถียรและอายุการใช้งานของอุปกรณ์ รวมถึงความต่อเนื่องในการทำงานของระบบ IT ของคุณ

 

ข้อแนะนำในการเลือกใช้แอร์สำหรับห้อง Server

การเลือกใช้เครื่องปรับอากาศสำหรับห้อง Server เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเซิร์ฟเวอร์ผลิตความร้อนสูงมากและต้องการสภาพแวดล้อมที่ควบคุมได้ดีเพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน นี่คือข้อแนะนำที่ควรพิจารณา:

  1. เลือกใช้ Precision Air Conditioner (PAC) / CRAC เท่านั้น นี่คือตัวเลือกที่ดีที่สุดและแนะนำสำหรับห้อง Server โดยเฉพาะ PAC หรือ CRAC (Computer Room Air Conditioner) ถูกออกแบบมาเพื่อทำงานดังนี้
  • ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นแม่นยำ: สามารถรักษาระดับอุณหภูมิ (โดยทั่วไป 20-25°C) และความชื้นสัมพัทธ์ (40-55% RH) ได้อย่างคงที่ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งจำเป็นต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
  • จัดการความร้อนสัมผัสสูง (High Sensible Heat Ratio): เซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์ IT ต่างๆ สร้าง ความร้อนสัมผัส (Sensible Heat) จำนวนมหาศาลจากการทำงาน แอร์ PAC/CRAC ถูกออกแบบมาให้เน้นการกำจัดความร้อนประเภทนี้โดยตรง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการระบายความร้อนจากอุปกรณ์
  • ทนทานต่อการทำงานต่อเนื่อง (Continuous Operation): สร้างมาเพื่อทำงานหนักตลอดเวลา มีความทนทานสูง ใช้คอมเพรสเซอร์และชิ้นส่วนคุณภาพสูงกว่ามาก ไม่เหมือนแอร์บ้านทั่วไปที่อาจเสียหายหากเปิดต่อเนื่องนานๆ
  • ระบบแจ้งเตือน: มักมีระบบแจ้งเตือนเมื่ออุณหภูมิหรือความชื้นอยู่นอกช่วงที่กำหนด
  • ฟังก์ชันการทำงานแบบหมุนเวียน (Redundant System): สามารถติดตั้งแบบ N+1 redundancy (มีเครื่องสำรอง 1 ตัว) หรือ 2N redundancy (มีเครื่องสำรองเต็มรูปแบบ) เพื่อให้แน่ใจว่ามีแอร์ทำงานอยู่เสมอแม้ตัวใดตัวหนึ่งเสีย

ทำไมถึงไม่ควรใช้เครื่องปรับอากาศทั่วไป (Comfort Air Conditioner)?

แอร์บ้านทั่วไปไม่เหมาะสำหรับห้อง Server ขนาดใหญ่หรือห้องที่มีอุปกรณ์จำนวนมาก เนื่องจาก:

  • ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นได้ไม่แม่นยำ: อาจไม่สามารถรักษาค่าที่ต้องการได้อย่างคงที่
  • ออกแบบมาเพื่อใช้งานเป็นช่วงๆ: ไม่เหมาะกับการเปิดตลอด 24/7
  • ประสิทธิภาพการระบายความร้อนต่ำ: ไม่สามารถจัดการกับความร้อนสูงจาก Server ได้ดีเท่าที่ควร
  • อาจทำให้ความชื้นต่ำเกินไป: เมื่อลดอุณหภูมิ แอร์บ้านมักจะลดความชื้นลงมากเกินไป ซึ่งไม่ดีต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
  1. การคำนวณขนาด BTU/h (British Thermal Unit per hour) ที่เหมาะสม การคำนวณขนาดแอร์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้:
  • ความร้อนจากอุปกรณ์ IT (Heat Load from IT Equipment): นี่คือแหล่งความร้อนหลักในห้อง Server คำนวณจากกำลังไฟฟ้าที่อุปกรณ์ทั้งหมดใช้ (Watts หรือ kW) โดยประมาณ 1 kW=3412 BTU/h
    • ตัวอย่าง: หากอุปกรณ์รวมใช้กำลังไฟ 10 kW จะผลิตความร้อนประมาณ 10×3412=34,120 BTU/h
    • โดยทั่วไป Server Rack หนึ่งตู้ อาจสร้างความร้อนได้ประมาณ 3.5−5.0 kW
  • ความร้อนจากคน (Heat Load from People): หากมีคนเข้าออกห้องบ่อยๆ จะมีการปล่อยความร้อนออกมาด้วย
  • ความร้อนจากแสงสว่าง (Heat Load from Lighting): ความร้อนจากหลอดไฟ
  • ความร้อนจากภายนอก (External Heat Load): ความร้อนที่รั่วไหลเข้ามาจากผนัง ฝ้าเพดาน หรือหน้าต่างที่รับแสงแดด (หากมี) อาจเผื่อไว้ประมาณ 10-20% ของภาระความร้อนรวม

สูตรอย่างง่าย: BTU/h ที่ต้องการ = (กำลังไฟรวมของอุปกรณ์ IT ในหน่วยวัตต์ / 1000) * 3412 * 1.2 (เผื่อ 20% สำหรับปัจจัยอื่น ๆ และความร้อนที่รั่วไหล)

  1. การติดตั้งแบบ Redundant (สำรอง)
  • N+1 Redundancy: แนะนำอย่างยิ่ง ควรมีเครื่องปรับอากาศอย่างน้อย 2 ตัว เพื่อสลับการทำงาน หรือทำงานพร้อมกันในกรณีที่เครื่องใดเครื่องหนึ่งเสีย จะมีเครื่องสำรองทำงานแทนได้ทันที เพื่อป้องกัน Downtime ของระบบ
  • การสลับการทำงาน (Duty/Standby): ตั้งเวลาให้แอร์แต่ละตัวทำงานสลับกัน เพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่องและลดภาระการทำงานของเครื่องใดเครื่องหนึ่ง
  1. การบำรุงรักษา
  • ทำความสะอาดแอร์อย่างสม่ำเสมอ: อย่างน้อย 3-6 เดือนต่อครั้ง เพื่อให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและป้องกันฝุ่นสะสม
  • ตรวจสอบสภาพท่อน้ำทิ้ง: เพื่อป้องกันการอุดตันและน้ำรั่ว
  • ตรวจเช็คสารทำความเย็น: ให้มีปริมาณที่เหมาะสม
  1. การออกแบบห้อง Server ที่ดี
  • แยกห้อง Server ออกจากพื้นที่ทำงานอื่น: เพื่อให้ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นได้ง่ายขึ้น
  • ผนังห้องและเพดานควรเป็นฉนวนกันความร้อน: เพื่อลดการถ่ายเทความร้อนจากภายนอก
  • ควรหลีกเลี่ยงการมีหน้าต่างในห้อง Server: หากมี ควรติดตั้งม่านกันแดดหรือฟิล์มกันความร้อน
  • มีระบบระบายอากาศที่ดี: เพื่อช่วยระบายความร้อนส่วนเกินออกไป

 

ทำไมแอร์สำหรับห้อง Server จึงจำเป็นและต่างจากแอร์บ้านทั่วไป?

การใช้ Precision Air Conditioner (PAC) หรือ CRAC สำหรับห้องเซิร์ฟเวอร์โดยเฉพาะนั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่ง และไม่สามารถใช้แอร์บ้านธรรมดามาทดแทนได้ โดยมีเหตุผลและหลักการดังนี้

  1. การควบคุมอุณหภูมิและความชื้นที่แม่นยำและคงที่ (Precision Control):
    • แอร์บ้าน: ถูกออกแบบมาเพื่อความสบายของมนุษย์ ซึ่งทนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิและความชื้นได้ในระดับหนึ่ง แอร์บ้านจึงไม่ได้มีระบบควบคุมที่ละเอียดอ่อน
    • แอร์ห้อง Server: ออกแบบมาเพื่อให้ควบคุมอุณหภูมิ (ประมาณ 20-25°C) และความชื้นสัมพัทธ์ (ประมาณ 40-55% RH) ได้อย่าง แม่นยำและคงที่ตลอด 24/7 อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มาก การเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ หรือการที่ความชื้นสูง/ต่ำเกินไป อาจทำให้เกิดการควบแน่น, ไฟฟ้าสถิต, การกัดกร่อน หรือความร้อนสูงเกินไป จนอุปกรณ์เสียหายได้
  2. การจัดการกับ “ความร้อนสัมผัส” vs. “ความร้อนแฝง”
    • แอร์บ้าน: เน้นการลดอุณหภูมิ (ความร้อนสัมผัส) และการลดความชื้น (ความร้อนแฝง) ไปพร้อมๆ กัน
    • แอร์ห้อง Server: เซิร์ฟเวอร์สร้าง ความร้อนสัมผัส (Sensible Heat) จำนวนมหาศาล แอร์ห้องเซิร์ฟเวอร์จึงถูกออกแบบมาให้มี Sensible Heat Ratio (SHR) ที่สูง ซึ่งหมายถึงเน้นการกำจัดความร้อนโดยตรงมากกว่าการลดความชื้น เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการระบายความร้อนจากอุปกรณ์
  3. ความสามารถในการทำงานต่อเนื่อง (Continuous Operation):
    • แอร์บ้าน: ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ทำงานต่อเนื่อง 24/7 ตลอดเวลา หากเปิดต่อเนื่องเป็นเวลานาน ชิ้นส่วนต่างๆ อาจเสื่อมสภาพเร็วขึ้น พังง่ายขึ้น
    • แอร์ห้อง Server: ถูกสร้างมาเพื่อ ทำงานหนักตลอดเวลา มีความทนทานสูง ใช้คอมเพรสเซอร์และชิ้นส่วนที่มีคุณภาพสูงกว่ามาก เพื่อให้แน่ใจว่าระบบจะเย็นอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
  4. การจัดการกับปริมาณลมและการไหลเวียนของอากาศ (Airflow and Circulation):
    • แอร์บ้าน: เน้นการกระจายลมให้คนรู้สึกเย็นสบาย ซึ่งอาจไม่เพียงพอต่อการระบายความร้อนออกจากตู้แร็คเซิร์ฟเวอร์ที่มีความหนาแน่นสูง
    • แอร์ห้อง Server: มีพัดลมที่มีกำลังสูงกว่ามาก สามารถสร้าง ปริมาณลม (Airflow) ที่มหาศาล เพื่อดันลมเย็นเข้าไปในช่องว่างของตู้แร็ค และดึงความร้อนออกจากอุปกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมักจะมีการออกแบบการไหลเวียนของอากาศเฉพาะ เช่น การใช้พื้นยก (Raised Floor) หรือการจัดโซนร้อน/เย็น (Hot Aisle/Cold Aisle Containment)
  5. ระบบความปลอดภัยและการสำรอง (Redundancy and Monitoring):
    • แอร์บ้าน: ไม่มีระบบสำรอง เมื่อเสียก็คือเสียเลย
    • แอร์ห้อง Server: มักถูกติดตั้งแบบ N+1 หรือ 2N Redundancy คือมีเครื่องสำรองเผื่อไว้ เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อเครื่องใดเครื่องหนึ่งเสีย อีกเครื่องจะทำงานแทนได้ทันที นอกจากนี้ยังมีระบบ แจ้งเตือน (Alarm System) เมื่ออุณหภูมิหรือความชื้นอยู่นอกเกณฑ์ เพื่อให้ผู้ดูแลสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที
  6. การกรองอากาศ (Air Filtration):
    • แอร์บ้าน: มีฟิลเตอร์กรองฝุ่นทั่วไป
    • แอร์ห้อง Server: มีระบบกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า เพื่อป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กที่อาจเข้าไปเกาะบนแผงวงจรและทำให้เกิดปัญหาได้

 

ผู้ผลิตแอร์ห้อง Server ชั้นนำระดับโลกที่น่าเชื่อถือ

การเลือก “แอร์สำหรับห้อง Server ที่ดีที่สุด” ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ขนาดห้อง, ภาระความร้อน, งบประมาณ, และบริการหลังการขาย ผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกที่เป็นที่ยอมรับในตลาด Precision Cooling ได้แก่

  • Stulz : แบรนด์จากเยอรมนีที่มีชื่อเสียงด้าน Precision Air Conditioning โดยเฉพาะสำหรับ Data Center ที่เน้นประสิทธิภาพพลังงาน

การลงทุนใน Precision Air Conditioning สำหรับห้องเซิร์ฟเวอร์เป็นการลงทุนที่จำเป็นเพื่อปกป้องอุปกรณ์ที่มีมูลค่าสูง และรับประกันความต่อเนื่องในการทำงานของระบบ IT

 

SITEM คือผู้นำด้านระบบปรับอากาศสำหรับห้อง Server ของประเทศไทย ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญยาวนานกว่า 30 ปี หากธุรกิจของคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญนี้โดยเฉพาะ SITEM คือคำตอบที่คุณวางใจได้ ติดต่อ SITEM ได้ที่ LINE Official ของ SITEM

Leave a Reply

Your email address will not be published.